จากปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี เป็นสีดำขุ่น คล้ายคราบน้ำมัน หลายจุดตามบริเวณชายหาดต่างๆ ทั้งบริเวณพื้นที่หาดป่าตอง หาดกมลา รวมถึงบริเวณพื้นที่อ่าวพลับพลา เกาะราชาใหญ่ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ส่งผลต่อความวิตกกังวลของประชาชนที่พบเห็น เกรงจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพปัญหาดังกล่าว เนื่องจากมีบางส่วนกังวลว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากการกระทำของมนุษย์หรือเกรงว่าเกิดจากการปล่อยน้ำเสีย ซึ่งหากเป็นการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน

นายสิทธิพล เมืองสง ประมงจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่าเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่เรียกว่าปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬหรือแพลงก์ตอนบลูม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล สีแดง สีเขียว หรือสีดำขุ่น ที่เกิดมาจากการเพิ่มจำนวนของสาหร่ายเซลล์เดียวในทะเลจำนวนมาก ทำให้เห็นน้ำทะเลเป็นสีที่ต่างออกไปจากเดิม โดยปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน และการขึ้นลงของน้ำทะเลและกระแสลม โดยจะเกิดเป็นช่วงเวลาในระยะสั้นเท่านั้น

นอกจากนี้ ชาวบ้านในละแวกหาดป่าตอง ทั้งผู้ประกอบการเรือเช่า รถรับจ้าง ยืนยันว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และจะเกิดอยู่ท้ายหาดเพียงจุดเดียว

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬหรือแพลงก์ตอนบลูม เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยอาจเป็นอันตรายต่อปลาและสิ่งมีชีวิตอื่นในทะเล ซึ่งศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน จะเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่ชัด และเพื่อลดความกังวลให้กับประชาชนโดยเชื่อมั่นว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวแต่อย่างใด